พี่ได้ใช้ทฤษฎีการแพทย์แผนไทยในการกำกับดูแลชีวิต คือ ทานปลาเป็นหลัก ทานผักเป็นพื้น ทานผลไม้ตามฤดูกาลที่ไม่หวานจัด ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร ทานธัญพืชถั่ว งา ทั้งหลาย ออกกำลังกายโดยการฝึกโยคะและยกน้ำหนักเบา ๆ
ทุกเช้า ถ่ายอุจจาระทุกเช้า
นอนหลับลึกทุกวัน ปรากฏว่าสุขภาพดีวันดีคืน เหมือนตายแล้วเกิดใหม่...
เพื่อนที่สมัยทำงานด้วยกัน
จากกันมาหลายปี
มาพบพี่บอกว่าพี่ดูดีกว่าตอนทำงานเสียอีก
ดูดีในวัยอายุเลข
5 จะเข้าเลข 6 พี่เลยคุยซะเลีย ว่าพี่เป็นนางงามตำแหน่ง
“Miss Forever Young” แสดงว่าการดูแลชีวิตของเราได้ผลดีค่ะ
เมื่อพี่รอดตาย ยังมีชีวิตอยู่อย่างดี
พี่ก็อุทิศชีวิตนี้ดูแลญาติมิตรทั้งหลายด้วยการออกบรรยายให้ความรู้ในการดูแลสุขภาพด้วยทฤษฎีการแพทย์แผนไทย
“สุขภาพดี วิถีไทย”
และปรุงยารักษาโรคด้วยสมุนไพร เพราะการเป็นแพทย์แผนไทยเราต้องเป็นเภสัชกรด้วยในคน
ๆ เดียวกัน งานหนักมากค่ะ
แต่ก็มีความสุขมาก ทำให้เห็นคำว่า “เพื่อนร่วมทุกข์” ชัดเจน เพราะคนไข้ที่มาหาพี่ ล้วนแต่อาการหนัก ๆ
ทั้งนั้น เช่น โรคมะเร็ง
เอดส์ สะเก็ดเงิน เบาหวาน
ความดัน ต่อมลูกโต ฯ ล ฯ
พี่เองเห็นบทบาทของสมุนไพรไทยอย่างลึกซึ้งและซาบซึ้ง
เพราะใช้ได้ผลดีจริงกับชีวิตพี่ และคนไข้ทั้งหลาย
เพราะฉะนั้นถือว่าสมุนไพรไทยมีพระคุณต่อชีวิตพี่อย่างยิ่ง และปัจจุบันคนไทยและคนทั้งหลายทั่วโลกต่างได้สำนึกถึงคุณประโยชน์อันวิเศษของสมุนไพร เพราะธรรมชาติได้สร้างต้นไม้มา
ไม่ใช่เพื่อเป็นอาหารสำหรับมนุษย์อย่างเดียว
ยังใช้เป็นยาสำหรับดูแลสุขภาพและรักษาโรคได้อีกด้วยค่ะ
ที่พี่เลือกหัวข้อ
“กินอาหารเป็นยา”
เพราะว่าอาหารใหม่ (อุทะริยัง)
เป็นตัวการสำคัญในการคุ้มครองรักษาสังขารร่างกาย (ธาตุดิน) เราต้องรู้และเข้าใจในการกินอาหารเป็นยาเพื่อป้องกันโรค
เราจะไม่เป็นโรคที่เราสามารถป้องกันได้
เพราะการป้องกันถูกกว่าการรักษา..
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น