วันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2556

คำสัมภาษณ์ลงวารสารหญิงไทย ต.ค. 2553


         พี่ได้ใช้ทฤษฎีการแพทย์แผนไทยในการกำกับดูแลชีวิต  คือ ทานปลาเป็นหลัก  ทานผักเป็นพื้น  ทานผลไม้ตามฤดูกาลที่ไม่หวานจัด  ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร  ทานธัญพืชถั่ว งา ทั้งหลาย   ออกกำลังกายโดยการฝึกโยคะและยกน้ำหนักเบา ๆ ทุกเช้า  ถ่ายอุจจาระทุกเช้า
นอนหลับลึกทุกวัน   ปรากฏว่าสุขภาพดีวันดีคืน  เหมือนตายแล้วเกิดใหม่...
เพื่อนที่สมัยทำงานด้วยกัน จากกันมาหลายปี  มาพบพี่บอกว่าพี่ดูดีกว่าตอนทำงานเสียอีก
ดูดีในวัยอายุเลข 5 จะเข้าเลข 6  พี่เลยคุยซะเลีย ว่าพี่เป็นนางงามตำแหน่ง “Miss Forever Young” แสดงว่าการดูแลชีวิตของเราได้ผลดีค่ะ

             เมื่อพี่รอดตาย ยังมีชีวิตอยู่อย่างดี  พี่ก็อุทิศชีวิตนี้ดูแลญาติมิตรทั้งหลายด้วยการออกบรรยายให้ความรู้ในการดูแลสุขภาพด้วยทฤษฎีการแพทย์แผนไทย สุขภาพดี วิถีไทย  และปรุงยารักษาโรคด้วยสมุนไพร เพราะการเป็นแพทย์แผนไทยเราต้องเป็นเภสัชกรด้วยในคน ๆ เดียวกัน  งานหนักมากค่ะ แต่ก็มีความสุขมาก  ทำให้เห็นคำว่า เพื่อนร่วมทุกข์ ชัดเจน  เพราะคนไข้ที่มาหาพี่ ล้วนแต่อาการหนัก ๆ ทั้งนั้น  เช่น  โรคมะเร็ง  เอดส์  สะเก็ดเงิน  เบาหวาน  ความดัน  ต่อมลูกโต  ฯ ล ฯ

              พี่เองเห็นบทบาทของสมุนไพรไทยอย่างลึกซึ้งและซาบซึ้ง เพราะใช้ได้ผลดีจริงกับชีวิตพี่ และคนไข้ทั้งหลาย  เพราะฉะนั้นถือว่าสมุนไพรไทยมีพระคุณต่อชีวิตพี่อย่างยิ่ง   และปัจจุบันคนไทยและคนทั้งหลายทั่วโลกต่างได้สำนึกถึงคุณประโยชน์อันวิเศษของสมุนไพร  เพราะธรรมชาติได้สร้างต้นไม้มา ไม่ใช่เพื่อเป็นอาหารสำหรับมนุษย์อย่างเดียว  ยังใช้เป็นยาสำหรับดูแลสุขภาพและรักษาโรคได้อีกด้วยค่ะ

               ที่พี่เลือกหัวข้อ กินอาหารเป็นยา  เพราะว่าอาหารใหม่ (อุทะริยัง) เป็นตัวการสำคัญในการคุ้มครองรักษาสังขารร่างกาย (ธาตุดิน)  เราต้องรู้และเข้าใจในการกินอาหารเป็นยาเพื่อป้องกันโรค เราจะไม่เป็นโรคที่เราสามารถป้องกันได้  เพราะการป้องกันถูกกว่าการรักษา..



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น